ข่าวดีสำหรับผู้ที่มีภาวะโรคเมตาบอลิซึม (Metabolic Syndrome) คือ น้ำคีเฟอร์ (water kefir) ไม่เพิ่มปัญหาการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในเลือดหรือกระตุ้นอาการอยากน้ำตาล นอกจากนี้ กระบวนการหมักยังปล่อยวิตามินและแร่ธาตุเพิ่มเติมออกมา ที่ดีที่สุด คือน้ำคีเฟอร์ที่หมักอย่างถูกต้องจะไม่มีสารเติมแต่ง สารเคมี หรือสารเทียมใด ๆ มันยังมีฟองเหมือนน้ำอัดลมทั่วไปและสามารถบรรจุในขวดเพื่อเพิ่มความฟู่ฟ่าขึ้นได้ น้ำคีเฟอร์สามารถใช้เป็นฐานสำหรับสมูทตี้แบบปราศจากนม ขนมเยลลี่ หรือไอศกรีมโฮมเมดได้เช่นกัน อีกทั้งยังสามารถเติมในนมที่ปราศจากนมวัว เช่น นมอัลมอนด์ โดยใช้น้ำคีเฟอร์ 1/4 ถ้วย ต่อนมที่ไม่ใช่นมวัว 2-3 ถ้วย ผสมแล้วเสิร์ฟ นอกจากนี้ยังสามารถใช้น้ำคีเฟอร์ที่เหลือเป็นวัฒนธรรมเริ่มต้นในการหมักผักได้
ในแง่ของประโยชน์ น้ำคีเฟอร์มีแบคทีเรียและยีสต์ที่เป็นประโยชน์หลายชนิด ซึ่งดีต่อระบบย่อยอาหาร น้ำคีเฟอร์ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามิน B2, B12, K, D, A1 รวมถึงแมกนีเซียม แคลเซียม และฟอสฟอรัส น้ำคีเฟอร์มีกรดอะมิโนสูงเช่นกัน โดยเฉพาะทริปโตฟาน (tryptophan) ซึ่งมีผลในการผ่อนคลายร่างกาย นอกจากนี้ น้ำคีเฟอร์ยังย่อยได้ง่ายด้วยเอนไซม์หลายชนิดที่มันมี
นอกจากนี้ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำคีเฟอร์สามารถช่วยกำจัดการติดเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori เมื่อใช้ร่วมกับการรักษาด้วยวิธีการสามวิธี (triple therapy) ให้สารต้านจุลชีพ เช่น กรดอินทรีย์และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรค เพิ่มการไหลของน้ำย่อยและกระตุ้นการเคลื่อนไหวเป็นคลื่นของลำไส้ใหญ่ที่เรียกว่า peristalsis คุณสมบัตินี้อาจทำให้น้ำคีเฟอร์มีประสิทธิภาพในการรักษาท้องผูก